โรคไขมันในหลอดเลือดอาจเป็นเพราะร่างกายของเรานั้นมีไขมันสะสมมากจนเกินไป ซึ่งอาจเกิดพฤติกรรการกินหรือการใช้ชีวิตในแต่ละวันทำให้ร่างกายเกิดภาวะความดันโลหิตสูง และอาจนำไปสู่ภาวะคอเลสเตอรอลสูงหรือไตรกลีเซอไรด์ เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ไขมัน อุด ตันทำให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆของร่ายกายได้ไม่เต็มที่อีกด้วย

hdl cholesterol คือ - ไขมันอุดตันในเส้นเลือด

มาทำความรู้จักชนิดของไขมันในเลือดว่ามีอะไรบ้าง

ไขมันในร่างกายคือสิ่งที่ทุกคนหลีกหนีไม่ได้ ซึ่งชนิดของไขมันที่มีในเลือดมีอยู่ 2 ชนิด  อันได้แก่ “คลอเรสเตอรอล” และ “ไตรกลีเซอไรด์” ซึ่งเป็นไขมันที่พบอยู่เป็นปกติในร่างกาย ไขมันทั้ง 2 ชนิดนี้ นั้นมีบทบาทสำคัญอย่างไรกันใน “โรคไขมันในเลือดสูง” ไปดูกันค่ะ

1. คอเลสเตอรอล (Cholesterol)

เป็นไขมันชนิดหนึ่งที่ร่างกายมนุษย์สร้างขึ้น โดยการสังเคราะห์จากตับและลำไส้ ซึ่งเรามักจะพบในไขมันสัตว์ คอเลสเตอรอลเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของเซลล์อื่น ๆ ของระบบในร่างกาย ขณะเดียวกันหากร่างกายมีไขมันหรือคอเลสเตอรอลมากจนเกินไปก็จะส่งผลเสียต่อร่างกายได้เช่นกัน ซึ่งคอเลสเตอรอลที่สำคัญต่อระบบร่างกายนั้นจะมีอยู่ 2 ชนิด

  • HDL คอเลสเตอรอล (hdl cholesterol) คือ  ไขมัน ชนิดดี หน้าที่ของไขมัน คือขนย้ายไขมันในร่างกายไปทำลายที่ตับ ซึ่งช่วยให้ของเสียที่เกิดจากไขมันในร่างกายลดลง ยิ่งในร่างกายมี HDL คอเลสเทอรอล มากเท่าไหร่ สุขภาพก็จะยิ่งดีตามลำดับ
  • LDL คอเลสเตอรอล (Ldl cholesterol) คือ ไขมันตัวร้าย เจ้า ldl สูงเป็นตัวการที่ทำหน้าที่ลำเลียงเอาคอเลสเตอรอลหรือไขมันส่งไปยังหลอดเลือด หรือ เนื้อเยื่อ ซึ่งหากมีจำนวนมากในร่างกายก็จะทำให้เกิดปัญหาขึ้นในส่วนนั้นๆเช่นถ้ามีที่หลอดเลือดเยอะก็จะทำให้หลอดเลือดแข็งตัว หรือ ตีบตัน ซึ่ส่งผลตัวการเกิดโรคหัวใจและโรคอื่นๆตามมามากมาย ซึ่ง ควรมี LDL คือ ค่าปกติที่เหมาะสม เท่ากับ 100-129 มก./ดล. ดังนั้น อัตราส่วน HDL ต่อ LDL ควรให้ความสำคัญกับ HDL มากกว่าค่ะ

2. ไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride)

ไตรกลีเซอไรด์สูงเกิดจากอะไร อาจเป็นคำศัพท์ที่เข้าใจยากในคนทั่วไป แต่ถ้าบอกว่าเป็นไขมันชนิดหนึ่ง ที่เกิดจากน้ำตาลและแป้ง หรือเกิดจากอาหารชนิดอื่น ๆ ที่ช่วยทำให้เรารู้สึกอิ่มท้องได้นาน  ร่างกายจะเก็บสะสมไตรกลีเซอร์ไรด์ไว้เป็นพลังงาน แต่หากมีไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือดสูง โอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบก็มีมากขึ้นหลายเท่า

ระดับไตรกลีเซอไรด์ในผู้ใหญ่ปกติไม่ควรเกินเท่าใด

ในร่างกายของคนเราหากมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงปกติระดับของค่าไตรกลีเซอไรด์ควรต่ำกว่า 150 mg/dL ซึ่งสามารถตรวจได้จากเลือด โดยปกติก่อนทำการตรวจเลือดแพทย์จะแนะนำให้งดอาหารประมาณ 12 ชั่วโมงเพื่อให้ได้ผลลัพท์ที่ตรวที่สุด ซึ่งไตรกลีเซอร์ไรด์ในร่างกายระดับปกติ ไม่ควรมากเกินกว่า 150 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรค่ะ

สาเหตุของภาวะไขมันในเลือดสูง

โรคไขมันในหลอดเลือดนั้นเกิดจากความผิดปกติทางกรรมพันธุ์ ทำให้ร่างกาย เผาผลาญทำลายไขมันลดลง อาจทำให้ร่างกายเกิดการสะสมไขมันมากเกินไป เช่น กะทิ เนื้อสัตว์ที่มีไขมัน อาหารทอด และการดื่มเหล้าหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ในปริมาณมากและเป็นประจำก่อเป็นอีกสาเหตุหนึ่งของการเกิดโรคไขมันในหลอดเลือด ซึ่งการใช้ยาบางชนิด หรือโรคบางอย่าง เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาคุมกำเนิด โรคเบาหวาน โรคต่อมไทรอยด์ทำงานได้น้อย โรคไต เป็นต้น การรับประทานอาหารที่ผิดหลักโภชนาการ

ไขมันในเลือดสูง DLP โรคที่มีปัจจัยที่ทำให้เกิดความเสี่ยง

โรค DLP ย่อมาจาก Dyslipidemia เป็นโรคที่เกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายใน โดยปัจจัยภายใน นั่นคือเกิดจากความผิดปกติทางกรรมพันธุ์ ทำให้มีความบกพร่องในเรื่องการเผาผลาญไขมันในร่างกาย

“ ภัยเงียบที่อันตรายมากของภาวะไขมันในเส้นเลือดสูง ” คอเลสเตอรอล cholesterol ในเลือดสูง เกิดจากไขมันอุดตันในเส้นเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคหัวใจขาดเลือด และอัมพฤกษ์ อันตรายของอาการไขมันในเส้นเลือดสูง dyslipidemia symptoms ที่สังเกตได้ ได้แก่

  • อาการปวดท้อง สำหรับผู้ป่วยบางรายอาจจะพบเจอรุนแรงถึงขั้นตับอ่อนอักเสบได้
  • อาจจะมีอาการผื่น หรือปื้นเหลืองๆ ขึ้นที่ผิวหนัง มีลักษณะเป็นปื้นหนา โดยตรงกลางมีสีเหลือง ส่วนฐานของเม็ดพุพองนี้นั้นจะมีลักษณะเป็นสีแดง 
  • การทำงานของระบบประสาททำงานผิดปกติ ผู้ป่วยบางรายมีอาการทรงตัวไม่อยู่ เดินโซเซ และปวดตามข้อ แขน ขา เหยียดได้ไม่ถนัด กล้ามเนื้อจะมีอาการแข็งเกร็ง
  • อาการหลอดเลือดแดงแข็งตัวมีผลทำให้เลือดที่ไหลเวียนในร่างกายไปเลี้ยงสมองไม่พออาจจะทำให้เป็นอัมพาตได้
  • ซึ่งการใช้ยาบางชนิด หรือโรคบางอย่าง เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาคุมกำเนิด โรคเบาหวาน โรคต่อมไทรอยด์ทำงานได้น้อย โรคไต เป็นต้น การรับประทานอาหารที่ผิดหลักโภชนาการ

วิธีรักษาไขมันในเลือดสูง เริ่มจากการปรับพฤติกรรม

การดูแลสุขภาพตัวเองให้ห่างไกลจากโรคไขมันในเลือดสูง หรือ DLP (Dyslipidemia) ไม่ใช่เรื่องยาก เริ่มจากการเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของตนเอง

  1. พยายามหลีกเลี่ยงอาหาร เครื่องดื่มที่มี คลอเลสเตอรอล ไขมันอิ่มตัวสูง และมีน้ำตาลสูง เช่น ของทอด เนื้อสัตว์ติดมัน เนย เค้ก เครื่องในสัตว์ หันมาใช้วิธีการประกอบอาหารแบบ นึ่ง ต้ม อบ อาหาร แทนการทอด หรือผัด
  2. ควรหันไปบริโภคอาหารประเภท ผัก ผลไม้ ธัญพืช  เพราะกากใยเหล่านี้จะช่วยให้ดูดซึมไขมันลดน้อยลง  และแหล่งโปรตีนที่ดีต่อสุขภาพ จำพวกผลิตภัณฑ์จากนมไขมันต่ำ เนื้อสัตว์ปีกไขมันต่ำ (ไม่กินหนัง) ปลา และถั่ว
  3. ผู้ที่มีน้ำหนักเยอะ เกินกว่ามาตรฐานกำหนด ควรควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออย่างน้อย 3-4 ครั้ง/สัปดาห์ ครั้งละประมาณ 40 นาทีขึ้นไป
  4. ควบคุมการรับประทานอาหาร โดยควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง เช่น ไขมันสัตว์ นม เนย ไข่ เครื่องในสัตว์ เนื้อสัตว์ ส่วนที่ติดมันทุกชนิด หอยนางรม ปลาหมึก กุ้ง เป็นต้น
  5. เราควรเปลี่ยนมาใช้น้ำมันพืชแทนน้ำมันจากสัตว์
  6.  ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง คือ ออกกำลังกายครั้งละประมาณ 30-40 นาที และอย่างน้อย 3-4 ครั้ง/สัปดาห์
  7.  งดการสูบบุหรี่ นอกจากจะช่วยรักษาภาวะไขมันผิดปกติในเลือกได้แล้ว ยังจะช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบด้วย
  8.  การที่เราลดน้ำหนักตัวหรือควบคุมน้ำหนัก ไม่ให้อ้วนเกินเกณฑ์มาตรฐานปกติ
  9. ถ้าเรามีโรคประจำตัวที่เสี่ยงก่อให้เกิดระดับไขมันในเลือดสูงขึ้น อาทิเช่น โรคเบาหวาน โรคทางที่มาจากพันธุกรรมบางอย่าง โรคของต่อมไร้ท่อบางอย่าง ควรรีบปรึกษาแพทย์ เพื่อรักษาและปฏิบัติตนที่ถูกต้อง

หลายๆ คนคงอยากทราบเกี่ยวกับวิธีการป้องกัน “ การเกิดภาวะไขมันในเลือดสูงที่ดี “ นั่นคือการควบคุมการรับประทานอาหาร ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง และเข้ารับการตรวจสุขภาพเป็นประจำคอย เช็ค ไขมัน ใน ร่างกายในทุก ๆ ปี อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆ ค่ะ

คอ เร ส เต อ รอ ล - ไขมันอุดตันในเส้นเลือด

อาหารในผู้ที่มีภาวะไขมันในเลือดสูงควรรู้

การควบคุมอาหารสำหรับผู้ที่มีไขมันในเลือดสูงนั้น เป็นข้อสำคัญอันดับหนึ่งเลยก็ว่าได้ โดยอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง และควรรับประทานมีดังนี้ต่อไปนี้ค่ะ

1.อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่

  • น้ำมันจำพวกที่มีกรดไขมันอิ่มตัวสูง (saturated fatty acid) เช่น น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว กะทิ น้ำมัน หมู ไก่
  • อาหารจำพวกที่มีไขมันอิ่มตัวสูง หนังสัตว์และส่วนติดไขมันสัตว์ เช่น หมูติดมัน เบคอน หมูกรอบ เป็นต้น เนื้อสัตว์แปรรูป เช่น ไส้กรอก ไส้อั่ว แหนม แฮม โบโลน่า หมูยอ กุนเชียง เป็นต้น นมและผลิตภัณฑ์จากนมแบบชนิดไขมันเต็มส่วน
  • อาหารจำพวกที่มีคอเลสเตอรอลในประมาณที่สูงมากๆ อาทิเช่น ไข่แดง ไข่ปลา สมองของสัตว์ อวัยวัยยะภายในตับ ไต ปลาหมึก หอยนางรม จำกัดไข่แดงไม่เกิน 3-4 ฟองต่อสัปดาห์ ส่วนไข่ขาวรับประทานได้ไม่จำกัด เครื่องในสัตว์ไม่ควรรับประทานบ่อย
  • อาหารประเภทไขมันทรานส์ ได้แก่ จำพวกเนยเทียม เนยขาว ครีมเทียม หรืออาหารที่มีส่วนผสมของไขมันทรานส์ในปริมาณมากเกินกว่าค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ เช่น เค้ก คุกกี้ พาย ขนมปัง มันฝรั่งทอด น้ำมันทอดซ้ำ
  • ควรเลือกรับประทานอาหารที่ไม่มีไขมันจากมะพร้าว เช่น กะทิข้น ไม่ควรรับประทานอาหารที่มีไขมันเยอะๆ เช่นเมนูแกงกะทิ แกงเผ็ด แกงแพนง แกงเขียวหวาน ต้มข่าไก่ เป็นต้น
  • ควรงดอาหารที่มีรสชาติหวานหรือมีน้ำตาลสูงกว่ามาตรฐานกำหนด เช่น ขนมหวานต่างๆ น้ำหวาน น้ำผลไม้ต่างๆ น้ำอัดลม
  • เราควรเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง เครื่องดื่มสุรา แอลกอฮอล์ทุกชนิด ในชีวิตประจำวัน เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลทำให้ระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงมากขึ้น

2. อาหารที่เราควรรับประทาน

  • อาหารประเภทเนื้อปลา โดยเฉพาะปลาทะเล เช่น ปลาทู ปลาโอ ปลาทูน่า ปลาซาบะ ปลาแซลมอน เนื่องจากอาหารจำพวกปลามีโอเมก้า 3 ช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดให้อยู่ในระดับที่พอเหมาะกับความต้องการของร่างกาย และจะช่วยในการเพิ่มไขมันดีในเลือด (HDL) โดยรับประทานอย่างน้อย 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์
  • รับประทานเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน นมพร่องมันเนย
  • เลือกรับประทานถั่วเปลือกแข็ง ถั่วเหลือง
  • เลือกบริโภคอาหารประเภทผัก ผลไม้บางชนิด ที่ให้กากและใยอาหารสูง เช่น คะน้า ฝรั่ง ส้ม เม็ดแมงลัก เพื่อให้ร่างกายได้รับกากใยมากขึ้น และช่วยในการดูดซึมไขมันสู่ร่างกายน้อยลง
  • ใช้น้ำมันถั่วเหลือง ดอกทานตะวัน มะกอก ข้าวโพด รำข้าว เมล็ดดอกคำฝอย แทนน้ำมันปาล์มและน้ำมันมะพร้าว
  • วิธีปรุงอาหารเลือกใช้การนึ่ง ย่าง อบ ยำ แทนการทอด

โรคไขมันหลอดเลือด ภาวะที่ทุกคนไม่อยากเจอ

ภาวะไขมันในเลือดสูง มีสาเหตุเกิดจากหลายปัจจัย มีอะไรบ้างไปดูกันค่ะความผิดปกติทางกรรมพันธุ์ การดื่มสุราหรือสูบบุหรี่เป็นประจำ การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง เกินความจำเป็นที่ร่างกายต้องการ ภาวะอ้วน หรือน้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐานกำหนด ไม่มีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และจากโรคหรือการใช้ยาบางชนิด ซึ่งการมีไขมันในเลือดสูงจะทราบได้ก็ต่อเมื่อทำการตรวจโดยวิธีการเจาะเลือด โดยค่ามาตรฐานของระดับไขมันในเลือด มีดังนี้

ค่ามาตรฐานของระดับไขมันในเลือด

ไขมันในหลอดเลือดสูงป้องกันได้ด้วยตัวคุณเอง

การป้องกันการเกิดภาวะไขมันในเลือดสูงได้ ด้วยการควบคุมการรับประทานอาหาร ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ และเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปี อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อช่วยป้องกันการเกิดความเสี่ยงของการเกิดโรค

อาการและการแสดงอาการของโรคไขมันในหลอดเลือดสูง

โดยทั่วไปอาการไขมันในเลือดสูงจะไม่แสดงอาการอะไรให้เห็น เราจะรู้ตัวก็ต่อเมื่อได้เข้ารับการตรวจสุขภาพ หรือเจาะเลือดเพื่อตรวจหาระดับไขมันแต่ละชนิด แต่หากมีระดับไขมันในเลือดสูงแล้วไม่เข้ารับการรักษา อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนหรือโรคบางอย่างตามมาได้ อย่างเช่น เป็นตับอ่อนอักเสบ ส่งผลให้ปวดท้อง เมื่อระดับไตรกลีเซอไรด์สูงมาก อาจเกิดปื้นหนาสีเหลืองบริเวณผิวหนังที่หนังตา ฝ่ามือ ซึ่งเกิดจากการสะสมของ

คอเลสเตอรอลที่ผิวหนัง ชั้นใต้ผิวหนัง ผู้ป่วยที่มีระดับโคเลสเตอรอลในเลือดสูง และสะสมมาเป็นเวลานานๆ จะมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง เมื่อเกิดการอุดตันจะมีอาการแสดงของการขาดเลือดจากอวัยวะนั้น เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ อัมพฤกษ์ อัมพาต โรคหลอดเลือดส่วนปลายที่ขาอุดตัน

เทคนิคกินอาหารลดไขมัน

  • งดเว้นอาหารจำพวกของทอด ของที่มีไขมันสูง หรืออาหารที่มีส่วนประกอบของกะทิ เช่น เฟรนฟรายด์ หมูทอด หรือของปิ้งย่าง หรือขนมหวานที่มีกะทิเป็นส่วนประกอบ
  • เมื่อจำเป็นต้องรับประทานของทอด หรือ ทำอาหารจำพวกทอด ควรใช้น้ำมันจำนวนน้อย หลีกเลี่ยงน้ำมันท่วม และควรกินแต่พอดีไม่กินเยอะ หรือกินวันละ 1 เมนู
ในความเป็นจริงแล้วประโยชน์ของไขมันก็มีไม่น้อยแต่ถ้าหากรับประทานไปมากๆและไขมันสะสมเป็นเวลานาน และจะเกาะที่ผนังด้านในหลอดเลือดมากจนเกินไป เสี่ยงที่จะทำให้เกิดอาการหลอดเลือดที่อยู่ภายในร่างกายตีบ เลือดในร่างกายไหลเวียนไม่สะดวก อาจจะก่อให้เกิดโรคหัวใจขาดเลือดตามมาได้ ที่สำคัญควรตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกๆ ปี โดยเฉพาะการตรวจเช็คสุขภาพหัวใจไม่ควรละเลยอย่างเด็ดขาด
ไขมัน ใน เลือด สูง - คอเลสเตอรอล สูง

คอเลสเตอรอล คือ สภาวะที่มีไขมันในเลือดสูง ซึ่งอาจส่งผลอันตรายต่อระบบหัวใจ และหลอดเลือดโดยฉับพลัน หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆขึ้นได้มากมาย อาทิเช่น โรคหลอดเลือดแดงแข็งตัวผิดปกติ หรือ โรคหัวใจขาดเลือด ซึ่งแน่นอนว่าโรคดังกล่าว ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ทำได้เพียงแค่ควบคุมและดูแลสุขภาพรวมถึงปรับวิธีการดำเนินชีวิตใหม่ หรือการรับประทานยาควบคุมอย่างต่อเนื่อง

คอเลสเตอรอล คืออะไร

Cholesterol แปลว่า คอเลสเตอรอล ซึ่งเป็นคำที่ความหมายตรงตัวไม่ซับซ้อน คือ สารประกอบไขมันที่ร่างกายเราสามารถสร้างขึ้นมาเองและมีความสำคัญมาก สุขภาพที่ดีนั้นก็ต้องอาศัย คลอเรสเตอรอลบางอย่างซึ่งอาจฟังแล้วดูน่าแปลกใจ แต่นั้นคือสิ่งที่ถูกต้อง เพราะคอเลสเตอรอลนั้นเป็นสารตั้งต้นของฮอร์โมนในร่างกายบางอย่าง ร่วมถึงยังเป็นส่วนประกอบของเยื่อหุ้มเซลล์ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นในคนทุกเพศ

ปัจจัยใดเป็นสาเหตุของการเกิด Cholesterol ?

คอเลสเตอรอลมีสาเหตุของอาการเจ็บป่วยมากมาย ซึ่งแน่นอนว่าอาการเจ็บป่วยนั้น เกิดขึ้นได้หลายปัจจัยโดยเฉพาะอย่างยิ่งปัจจัยที่เกิดจากการรับประทานอาหาร หรือไลฟ์สไตล์การดำเนินชีวิตของแต่ละบุคคล ไม่ว่าจะเป็นการสูบบุหรี่หรือการขาดการออกกำลังกาย ภาวะโรคอื่น ๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคไทรอยด์ แม้แต่พันธุกรรมก็เป็นส่วนหนึ่งที่ส่งผลต่อคอเลสตอรอลในร่างกายได้เช่นกัน

จากข้างต้นว่าโดยมากมาจากการกินหรือการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งถือว่เป็น “ภัยเงียบ” ที่หลายๆไม่ทันตั้งตัว รู้อีกทีก็มีอาการแสดงออกชัดเจนจนบางรายก็รักษาไม่ทัน หรือบางรายก็เกิดโรคแทรกซ้อนร้ายแรงขึ้นมาเช่น โรคหัวใจวาย โรคหลอดเลือดต่างๆ

ดังนั้น เนื่องจากอาการของโรคคอเลสเตอรอลที่ไม่ได้แสดงให้เห็นชัดเจน การดูแลสุขภาพตัวเองอย่างต่อเนื่องจึงเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสุขภาพประจำเป็นอย่างสม่ำเสมอ  การตรวจคอเลสเตอรอลในผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งหากตรวจแล้วพบว่าพบปัญหาคอเลสเตอรอลไม่อยู่ในมาตรฐานที่กำหนด ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อหาทางรักษาและป้องกันทันที

ซึ่งโดยทั่วไปแล้วค่าคอเลสเตอรอลมาตรฐาน ควรต่ำกว่า 200 มก./ดล.

พฤติกรรมแบบไหนที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคคอเลสเตอรอล

  1. นิสัยที่ชอบรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง เช่น ของทอด ปิ้งย่างต่างๆ
  2. โรคอ้วนหรือการมีไขมันส่วนเกินในร่างกายจำนวนมาก ส่งผลให้ระดับ HDL คอเลสเตอรอลในร่างกายต่ำลง
  3. การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตัวการทำลายตับ ซึ่งตับเป็นตัวที่ช่วยกำจัดไขมันในร่างกาย  เมื่อตับถูกทำลาย ไขมันส่วนเกินย่อมเพิ่มสูงขึ้น
  4. การขาดการออกกำลังกาย เคลื่อนไหวร่างกายน้อย ส่งผลให้ LDL คอเลสเตอรอล ในร่างกายสูงขึ้นทางอ้อม
  5. การสูบบุหรี่ ในบุหรี่มีตัวการที่ไปขัดขวางการทำงานของ HDL คอเลสเตอรอล หรือไขมันดี ซึ่งส่งผลให้การลำเลียงไขมันไม่ดีในร่างกายไปยังตับหยุดชะงักลง ไขมันส่วนเกินเหล่านั้นจึงไปเกาะที่ผนังเลือด สะสมในจุดอื่นๆตามร่างกาย ซึ่งในที่สุดก็เกิดภาวะของโรคแทรกซ้อนต่างๆตามมา

เมื่อเราเป็นโรคคอเลสเตอรอลแล้ว เราจะมีวิธีรักษาอย่างไร

ในปัจจุบันมีการวินิจฉัยโรคคอเลสเตอรอลด้วยวิธีตรวจเลือดเท่านั้น ซึ่งจะสามารถแสดงให้เห็นทั้งไขมันที่ดีและไม่ดีในร่างกาย โดยทั่วไปแล้วผู้ที่จำเป็นต้องตรวจระดับไขมันในเลือดอย่างสม่ำเสมอ ได้แก่

  • ผู้ที่มีสมาชิกในครอบครัวป่วยเป็นโรคไขมันในเลือดสูง ซึ่งมีความเสี่ยงที่อาจมาจากพันธุกรรม หรือมีคนในครอบครัวป่วยเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจก่อนวัยอันควร
  • ผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์มาตรฐาน
  • ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป เนื่องจากยิ่งมีอายุมากขึ้น โอกาสที่จะเสี่ยงเป็นโรคย่อมสูงขึ้น
  • เพศชายมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคคอเลสเตอรอลสูงกว่าเพศหญิง
  • ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพอื่นๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น

คำถามพบบ่อยเกี่ยวกับโรคไขมันในเลือดสูง หรือ โรคคอเลสเตอรอลสูง

โดยมากโรคคอ เร ส เต อ รอ ลเกิดจากการบริโภคเป็นหลัก เช่น การที่ชอบรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง อาหารทอด น้ำมันจากสัตว์ กะทิ เป็นต้น แต่ทั้งนี้คอเลสเตอรอลก็ยังสามารถมาจากกรรมพันธุ์ได้เช่นกัน

อาการโดยทั่วไปของผู้ที่ป่วยเป็นโรคคอเลสเตอรอล เริ่มแรกมักจะไม่ค่อยแสดงอาการใดๆ แต่เมื่อไขมันตัวร้ายถูกสะสมในร่างกายเป็นปริมาณมากขึ้น ร่างกายจะเริ่มตอบสนองถึงผลกระทบต่างๆเช่น ผู้ป่วยจะมีอาการแน่นที่บริเวณหน้าอก เหนื่อย เพลียง่าย หรืออาจมีโรคอื่นๆเช่นโรคหลอดเลือดแทรกออกมา โดยผู้ป่วยจะทราบก็ต่อเมื่อพบแพทย์และตรวจวิเคราะห์จากการเจาะเลือด

โดยปกติแล้วโรคคอเลสเตอรอลจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ การดื่ม Coffogenic Drink จะช่วยบรรเทาอาการของโรคให้ทุเลาลงหรือช่วยป้องกันการเกิดโรคได้ เนื่องจาการในเครื่องดื่ม Coffogenic จะเป็นตัวช่วยเรื่องยับยั้ง หรือ ลดระดับไขมันในร่างกายลงได้ จึงทำให้ผู้ที่ป่วยมีอาการดีขึ้น ส่วนผู้ที่ยังไม่ได้เป็นผู้ป่วยก็จะสุขภาพแข็งแรงขึ้น

เพราะใน Coffogenic Drink เครื่องดื่มที่สกัดจากเนื้อผลกาแฟ มีสารคลอโรจีนิก ซึ่งเป็นสารที่ออกฤทธิ์ในการยับยั้งการดูดซึมของไขมันในร่างกาย ซึ่ง Coffogenic Drink นั้นได้รับการวิจัยและพัฒนาจากทีมแพทย์และนักวิจัยคนไทยเป็นเวลายาวนานกว่า 9 ปี ซึ่งได้ผลลัพท์ที่เห็นผลชัดเจนในเรื่องการยับยั้งไขมันในร่างกาย ครั้งแรกของโรค

แพทย์แนะนำให้ดื่มวันละ 1-2 ขวด หลังอาหารเช้า และ เที่ยง ติดต่อกัน 1 – 2 เดือน หรือควรดื่มเป็นประจำเพื่อให้ได้ผลลัพท์ที่ต่อเนื่อง

สามารถช่วยลดคอเลสเตอรอลได้อย่างเห็นผล เนื่องจาก Coffoenic มีสารที่ช่วยในเรื่องยับยั้งการเกิดไขมันสะสมในร่างกาย เมื่อไขมันไม่ดีในร่างกายถูกยับยั้ง โอกาสการเกิดโรคคอเลสเตอรอลก็จะลดลงสามารถ

ตามสถิติพบว่าคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไปมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไขมันในร่างกายสูง แต่อาจจะยังไม่แสดงอาการเนื่องจากปริมาณการสะสมในร่างกายยังไม่สูง แต่เมื่ออายุประมาณ 30 ปี อาการต่างๆ ค่าไขมันในร่างกายที่น่าเป็นห่วงจะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งถ้าหากมองโดยภาพรวมแล้วก็คือ คนทุกช่วงอายุมีโอกาสที่จะเป็นโรคคอเลสเตอรอลได้ทั้งหมด ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการกินของแต่ละบุคคลควบคู่ไปด้วย ดังนั้นการป้องกันแต่เนิ่นๆจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรปฏิบัติ

ไม่เป็นอันตราย เนื่องจากเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ และผ่านการวิจัยทางคลีนิค

Coffogenic ไม่ได้เป็นยาที่รักษาทางการแพทย์โดยตรง แต่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพ มีสารสำคัญกรดคลอโรจีนิก ที่สามารถลดการดูดซึมไขมันเข้าสู่กระแสเลือดได้

Coffogenic ไม่ได้เป็นยาที่รักษาทางการแพทย์โดยตรง แต่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพ มีสารสำคัญกรดคลอโรจีนิก ที่สามารถลดการดูดซึมไขมันเข้าสู่กระแสเลือดได้

แนะนำทานเป็นเวลา 6 เดือน เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของผลเลือด

Coffogenic Drink มีสารสำคัญกรดคลอโรจีนิก ที่สามารถลดการดูดซึมไขมันเข้าสู่กระแสเลือดได้

ไม่จำเป็นต้องรับประทาน แต่หากอยากลดการเกิดภาวะไขมันในเลือดสูง

เด็ก สตรีมีครรภ์ ภูมิคุ้มกันบกพร่อง ไม่แนะนำให้ทาน