You are currently viewing งานแถลงข่าว “ภาคีเครือข่ายเชียงใหม่ร่วมใจขจัด PM 2.5 และลดโลกร้อน”

งานแถลงข่าว “ภาคีเครือข่ายเชียงใหม่ร่วมใจขจัด PM 2.5 และลดโลกร้อน”

                     เนื่องจากปัญหา ฝุ่นควัน PM 2.5 ที่จังหวัดเชียงใหม่ และภาคเหนือตอนบน เป็นปัญหามลพิษใหญ่ และเป็นปัญหามาเป็นเวลานานตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา ส่งผลเสียต่อประชาชน ธุร กิจ และสิ่งแวดล้อมต่างๆ มากมาย ซึ่งนับวันจะยิ่งลุกลามใหญ่โตขึ้น รัฐบาลได้ประกาศให้ปัญหานี้เป็นวาระแห่งชาติที่ต้องรีบแก้ไขอย่างเร่งด่วน สาเหตุสำคัญ คือ การเผาป่า เผาไร่ข้าวโพด เกิดทั้งที่โล่งในป่า และที่โล่งในพื้นที่เกษตรกรรม ซึ่ง “การเผาไร่ ข้าวโพด” มีจำนวนประมาณ 2 แสนไร่ จึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุหลักของการเกิดปัญหาหมอกควัน โดยสาเหตุที่ต้องเผาไร่ข้าวโพด เพราะหลังเก็บเกี่ยวข้าวโพดเสร็จ ชาวไร่ต้องรีบกำจัดซากไร่ ตอชังข้าวโพด ฯลฯ แต่ด้วยวิธีการที่ง่าย รวดเร็ว และประหยัดต้นทุนที่สุดคือ การเผาทิ้ง ซึ่งนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำๆ เดิมๆ วนอยู่ อย่างนี้ทุกปี

                      ทางออกที่จะแก้ไขปัญหานี้ได้คือการตัดวงจรการที่ต้องเผาไร่ ข้าวโพด และสร้างวิธีที่ช่วยกำจัดซากไร่ข้าวโพดให้รวดเร็ว นั่นคือการเก็บรวบรวมและนำมาอัดเป็นชีวมวลอัดเม็ด เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงในภาคอุตสาหกรรมฯ ซึ่งจะเป็นการจัดการไร่ข้าวโพดโดยไม่ต้องเผาและจะช่วยลดปัญหา PM 2.5 ของจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดทางภาคเหนือได้ อย่างมีนัยยะสำคัญ

                       อีกทั้ง ยังเป็นการสร้างรายได้จากสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ได้อย่างเป็นกอบเป็นกำอีกด้วย แต่การที่จะได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านให้ทราบถึงวิธีการใหม่ที่ใช้ในการกำจัดซากไร่ข้าวโพด ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ช่วยนำความคิด ชี้แนะ ชี้นำและใช้ศักยภาพต่างๆ เพื่อให้ชาวบ้าน เกษตรกรนำซากไร่ ข้าวโพดมาเข้าสู่กระบวนการอัดเม็ดได้อย่างมีผลสัมฤทธิ์

นอกจากปัญหาฝุ่นควัน PM 2.5 แล้ว ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาวะภูมิอากาศที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ก็เป็นอีกปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ โดยสาเหตุหลักของปัญหาดังกล่าวเกิดจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จากกิจกรรมของมนุษย์ทั้งภาคครัวเรือน การเกษตร อุตสาหกรรม และอื่นๆ จากปัญหาดังกล่าวทำให้ทั้งโลกมีข้อกำหนดให้ทุกประเทศช่วยกันลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงประมาณ 50% จากปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศ ภายใน 7 ปี ซึ่งประเทศไทยเป็นหนึ่งสมาชิกที่จำเป็นต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดดังกล่าวด้วย และเป็นหนึ่งประเทศที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาวะภูมิอากาศอย่างหนักจากคลื่นความร้อนที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลกระทบต่อ
อุณหภูมิภายในประเทศจนทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา หนึ่งในนั้นคือ ปัญหาไฟไหม้ป่า ซึ่งเป็นอีกสาเหตุหนึ่งในการทำให้เกิดปัญหาฝุ่นควัน PM 2.5

ฮิลล์คอฟฟ์ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งใน ภาคีเครือข่าย ที่มีความตั้งใจเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแก้ไขปัญหาลังกล่าว โดยการนำคาร์บอนเดรดิตที่เกิดจากกิจกรรม การช่วยลดโลกร้อนจากภาคครัวเรือน ภากการเกษตร ภาคการดูแลป่าไม้ ภาคอุตสาหกรรม และภาคพลังงาน มาช่วยสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้นให้กับจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อนำไปใช้เป็นเงินในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวข้างต้น ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ การนำเงินจากธุรกิจการขายคาร์บอนเครดิตมารับซื้อเศษของเสียจากเกษตรเพื่อนำไปผลิตเป็นชีวมวลอัดเม็ดทดแทนถ่านหิน ทำให้สามารถช่วยลดปัญหาโลกร้อนและปัญหาฝุ่นควัน PM 2.5 ในจังหวัดเชียงใหม่ได้อย่างมีนัยสำคัญ ปริมาณคาร์บอนเครดิตที่เหลือยังสามารถนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์คาร์บอนนิวทรัลทางการเกษตร เช่น กาแฟ ลำใย มะม่วง เป็นต้น เพื่อส่งออกต่างประเทศที่มีความต้องการผลิตภัณฑ์คาร์บอนนิวทรัวทางการเกษตรอย่างสูงในปัจจุบัน ทำให้จังหวัดเชียงใหม่สามารถสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้นไปพร้อมกับสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

โครงการที่สามารถสร้าง Carbon Credit มีหลายมิติ เช่น
  •  ด้านพลังงาน – ประหยัดพลังงาน , พลังงานทางเลือก , พลังงานหมุนเวียน , การขนส่งอย่างมีประสิทธิภาพ
  • ด้านการจัดการขยะและของเสีย – การหมุนเวียนนำกลับมาใช้ซ้ำ
  •  การปลูกป่า และการทำเกษตรอินทรีย์หมุนเวียน
Hillfoff มุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งกับ ภาคีเครือข่ายเชียงใหม่ร่วมใจขจัดPM 2.5และลดโลกร้อน รวมถึงการนำ Carbon Credit กลับมาสนับสนุนในธุรกิจเพื่อต่อยอดไปหาความยั่งยืนอย่างแท้จริง