ภาวะไขมันในเลือดสูง เป็นภัยเงียบอันตรายที่ก่อให้เกิดโรคร้ายแรงต่าง ๆ ทำให้หลายคนเริ่มหันกลับมาดูแลสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็น การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต การเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และการออกกำลังกาย รวมไปถึงการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้สุขภาพแข็งแรง และห่างไกลจากโรคต่าง ๆ ซึ่งบทความในวันนี้ Hillkoff จะมาพูดถึงภาวะ ไขมันในเลือดสูง มีอาการอย่างไร และมีวิธีการป้องกันอย่างไรบ้าง บทความนี้มีคำตอบ
ศึกษาเพื่อป้องกัน ! ไขมันในเลือดสูง สังเกตอาการได้อย่างไรบ้าง ?

โดยปกติแล้วผู้ป่วยภาวะไขมันในเลือดสูง จะไม่แสดงอาการ แต่สามารถไปตรวจได้ด้วยการเจาะเลือด เพื่อตรวจระดับไขมันในเลือด ดังนี้
- คอเลสเตอรอล (Cholesterol)
ระดับปกติของคอเลสเตอรอลในเลือด ไม่ควรเกิน 200 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ซึ่งประกอบไปด้วย
- คอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) ระดับปกติในเลือดผู้ชายมากกว่า 40 มิลลิกรัม/เดซิลิตร หรือผู้หญิงมากกว่า 50 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
- คอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) ระดับปกติในเลือดไม่ควรเกิน 130 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
- ไตรกรีเซอไรด์ (Triglyceride)
ระดับปกติในเลือดไม่ควรเกิน 150 มิลลิกรัม/เดซิลิตร (ค่าปกติ 50-150 มิลลิกรัม/เดซิลิตร)
ภาวะไขมันในเลือด นอกจากจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพแล้ว ยังเป็นสาเหตุของการเกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือด ซึ่งมีความร้ายแรงถึงพิการ หรืออาจเสียชีวิตได้ เพราะฉะนั้นคุณควรหมั่นตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะ ไขมันในเลือดสูง
ด้วยความที่เลือดในร่างกายของคนเรามีหน้าที่ลำเลียงสารอาหารต่าง ๆ รวมไปถึง “ไขมัน” ซึ่งไขมันก็มีหลากหลายชนิดที่ทำหน้าที่แตกต่างกันออกไป แต่สำหรับภาวะไขมันในเลือดสูง (Hyperlipidemia) เป็นภาวะด้านสุขภาพ ที่ร่างกายมีไขมันชนิดไม่ดีอยู่ในระบบไหลเวียนเลือดมากเกินไป จนส่งผลให้เกิดโรคร้ายแรงตามมาได้
รู้ให้ทัน ! ไขมันในเลือดสูง เกิดจากไขมันอะไรบ้าง ?

ไขมันในเลือดหลัก ๆ มีอยู่ทั้งหมด 3 ชนิด โดยมาจากส่วนที่ร่างกายผลิตได้เองจากตับ และส่วนที่ร่างกายได้รับจากอาหารที่ทาน ซึ่งไขมันจะถูกลำเลียงผ่านเลือด และเกาะไปกับโปรตีนที่ชื่อว่า “ไลโปโปรตีน” หากทำการตรวจสุขภาพ จะมีการจำแนกประเภทไขมันในเลือด ดังนี้
- ไขมันเลว (Low-Density Lipoprotein)
ไขมันเลว หรือไลโปโปรตีนความหนาแน่นต่ำ (LDL) เป็นคอเลสเตอรอลประเภทหนึ่ง ซึ่งคนที่มีไขมัน LDL สูง การลำเลียงไขมันผ่านเส้นเลือด อาจทำให้ไขมันเกิดการเกาะตัวที่ผนังเส้นเลือดแดง และเป็นสาเหตุของอาการหลอดเลือดแดงตีบ หรือหลอดเลือดแดงอุดตัน
- ไขมันดี (High-Density Lipoprotein)
ไขมันดี หรือไลโปโปรตีนความหนาแน่นมาก (HDL) คอเลสเตอรอลประเภทนี้เป็นไขมันดี ที่คอยช่วยดักจับไขมันส่วนเกินในเส้นเลือดแดง และส่งไปยังตับ ซึ่งหากมีปริมาณของไขมันดีในร่างกายสูง หรืออยู่ในระดับที่เหมาะสม จะยิ่งส่งผลดีต่อร่างกาย เพราะอาจช่วยลดไขมันส่วนเกินได้
- ไตรกรีเซอไรด์ (Triglycerides)
ไตรกรีเซอไรด์ เป็นไขมันในเลือดชนิดหนึ่งที่คล้ายกับคอเลสเตอรอล ซึ่งเมื่อร่างกายมีปริมาณไตรกรีเซอไรด์มากเกินไป จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดก้อนไขมันเกาะผนังในหลอดเลือดแดงมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม การที่จะมีสุขภาพดีระดับไขมันทั้ง 3 ตัวนี้ต้องอยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ ได้ โดยเกณฑ์ค่าคอเลสเตอรอลไม่ควรเกิน 200 mg/dl หรือหากตรวจพบว่ามีโอกาสเสี่ยงเป็นภาวะไขมันในเลือด ควรปรึกษาแพทย์ และตรวจสุขภาพเพิ่มเติม เพื่อที่จะได้ขอคำแนะนำจากแพทย์ได้อย่างตรงจุด และลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายในอนาคต
สังเกตให้ดี ! ภาวะ ไขมันในเลือดสูง มีอาการเริ่มต้นเป็นอย่างไร ?
ในระยะแรก ๆ อาจตรวจพบได้ยาก เพราะภาวะไขมันในเลือดจะไม่ค่อยแสดงอาการ แต่เมื่อไหร่ที่ร่างกายมีคอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์มากเกินไป อาจเกิดการสะสมของไขมันในหลอดเลือดแดง ซึ่งหากมีภาวะ ไขมันในเลือดสูง ห้ามกินอะไรบ้าง เช่น
- การทานอาหารที่มีคอเลสเตอรอล ไขมันอิ่มตัว ไขมันทรานส์ หรือคาร์โบไฮเดรตสูงเกินไป เช่น ของทอด หรืออาหารที่ผ่านกระบวนการแปรรูป เป็นต้น
- ขาดการออกกำลังกาย หรือเคลื่อนไหวร่างกายน้อย
- การสูบบุหรี่ และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ความผิดปกติทางพันธุกรรม ทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันลดลง
- การใช้ยาบางชนิด อาทิ ยาขับปัสสาวะ ยาคุมกำเนิด และอื่น ๆ
นอกจากนี้ ยังก่อให้เกิดภาวะ ไขมันในเลือด และมีอาการอื่น ๆ เช่น ความดันโลหิตสูงขึ้น มีอาการเวียนศีรษะ หน้ามืด รู้สึกเหมือนจะวูบเวลาลุก-นั่งเร็ว ๆ หรือเริ่มปวดศีรษะอยู่เป็นประจำ รวมไปถึงอาการใจสั่น หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ
วิธีการป้องกัน และการดูแลตัวเอง เมื่อเสี่ยงเป็นภาวะไขมันในเลือดสูง

การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้ชีวิต และพฤติกรรมการกินอาหารที่เหมาะสม จะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้ และหากปฏิบัติตามข้อแนะนำดังกล่าว จะช่วยลดโอกาสในการเป็นโรคไขมันในเลือดสูงได้ เช่น
- การควบคุมอาหาร
การรับประทานอาหารที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ ถือเป็นเรื่องสำคัญในการป้องกัน และการรักษาภาวะไขมันในเลือดสูง โดยควรหลีกเลี่ยงอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ติดมัน เครื่องในสัตว์ ไข่แดง อาหารทะเล ผลิตภัณฑ์จากนม ของหวานที่มีส่วนประกอบของน้ำตาล กะทิ ของทอด รวมไปถึงควรหลีกเลี่ยงน้ำมันประเภทที่มีกรดไขมันสูง อย่าง น้ำมันมะพร้าว และไขมันที่ได้จากสัตว์
- การออกกำลังกาย
ผู้ที่มีภาวะไขมันในเลือดสูง ควรหันมาออกกำลังกาย โดยอาจเริ่มจากการเดิน การขยับตัวบ่อย ๆ ไม่จำเป็นว่าจะต้องออกกำลังกายหนัก ๆ แต่ให้ออกกำลังกายวันละนิดอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ช่วยลดระดับไขมันเลว (LDL), คอเลสเตอรอล, และช่วยเพิ่มระดับไขมันดี (HDL)
- การใช้ยาเพื่อลดระดับไขมัน
หากในกรณีที่การควบคุมอาหาร และการออกกำลังกาย ไม่สามารถลดระดับไขมันในเลือดได้ จำเป็นจะต้องใช้ยาลดระดับไขมันในเลือดร่วมด้วย แต่ทั้งนี้ควรปรึกษา และรับประทานตามที่แพทย์สั่ง