“Coffee is Super Fruit” เมื่อกาแฟเป็นมากกว่าเครื่องดื่มสีดำในแก้ว วันนี้ กาแฟเป็นอาหารเสริมสุขภาพช่วยลดไขมัน LDL และ Triglyceride เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพลดทุกขภาวะจากโรค NCDs
NCDs (Non-Communicable Diseases) หรือบางคนเรียกว่า โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ซึ่งถือว่าเป็นโรคที่คร่าชีวิตคนไทยและคนทั่วโลกมากเป็นอันดับต้นๆ จากสถิติขององค์กรอนามัยโลกระบุว่า มีคนเสียชีวิตด้วยกลุ่มโรค NCDs มากถึง 74% หรือชั่วโมงละ 37 คน และคนส่วนใหญ่เป็นวัยทำงาน ที่มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่ถูกต้อง เสี่ยงต่อการสะสมของไขมัน และนำไปสู่การเกิดโรคต่างๆในที่สุด และร้ายแรงกว่านั้นอาจถึงขั้น เสียชีวิตก่อนวัยอันควร
โรคต่างๆที่เกิดขึ้นจากการใช้ชีวิตประจำวันที่เราอาจคาดไม่ถึง อาทิ โรคอ้วนลงพุง โรคความดันโลหิตสูง โรคคอเลสเตอรอล โรคหลอดเลือดสมองและหลอดเลือดหัวใจ โรคเบาหวาน และ โรคไขมันพอกตับ เป็นต้น
Coffogenic Drink ถูกพัฒนาจากสารสกัดเนื้อผลกาแฟ เพื่อตอบโจทย์การป้องกันโรค NCDs ในรูปอาหารเสริมสุขภาพ เปิดตัวที่ประเทศไทยอย่างเป็นทางการเป็นที่แรกในโลก พร้อมกับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นอาหารใหม่ Novel Foods
เริ่มจัดจำหน่ายในปี 2566 นี้ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่สามารถพิสูจน์ผลการทดสอบในมนุษย์ โดยทีมวิจัยและทีมแพทย์คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และความปลอดภัยต่อการบริโภค 100% ศูนย์ประเมินความเสี่ยงประเทศไทย พร้อมขึ้นทะเบียนกับกระทรวงสาธารณสุข บริษัทฮิลล์คอฟฟ์ และ มหาวิทยาลัย ที่ทำงานร่วมกันได้จดสิทธิบัตรการวิจัยผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
Coffogenic drink พัฒนาตำรับจากส่วนผสมจากธรรมชาติ 100 % ไม่มีสารกันเสีย ผ่านการนวัตกรรมการแปรรูป เพื่อล็อคสารสำคัญออกฤทธิ์จากเนื้อผลกาแฟให้อยู่ในรูปที่นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพของมนุษย์ได้ ซึ่งมีสรรพคุณช่วยในการ ยับยั้งการดูดซึมไขมันคอเลสเตอรอล เข้าสู่ร่างกาย โดยทำให้ไมเซลล์คอเลสเตอรอลมีขนาดใหญ่จนร่างกายไม่สามารถดูดซึมเข้าไปในกระแสเลือดได้ โดยแนะนำดื่มวัยทำงานวันละ 1- 2 ขวด ดื่มเป็นเครื่องดื่มทดแทนกาแฟ หรือ ผู้ที่อยู่ระหว่างทานยาลดไขมันก็สามารถดื่มได้อย่างปลอดภัย
บริษัท ฮิลล์คอฟฟ์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ซื้อกาแฟจากต้นน้ำและทำการเแปรรูป ในทุกๆปี ฮิลล์คอฟฟ์ จะมีการพัฒนา สินค้านวัตกรรม ออกมามากมายเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาด ผู้คนในสังคมและสิ่งแวดล้อม ปีพ.ศ. 2555 เนื้อผลกาแฟ ถูกนำมาคิดต่อยอดในผลิตภัณฑ์ต่างๆเพื่อสร้างรายได้ให้ชุมชนและเปลี่ยนของที่ไม่ใช้ให้กลายมาเป็นทรัพยากรใหม่ การค้นพบที่น่าเหลือเชื่อในเนื้อผลเชอรี่ของกาแฟ ทำให้บริษัทตัดสินใจลงทุนงานวิจัยอย่างต่อเนื่องและใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก ร่วมกับขอรับทุนสนับสนุนจากภาครัฐ ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ , มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และ มหาวิทยาลัยพะเยา ด้วยการค้นคว้าวิจัยจากทีมคณาจารย์จากหลากสาขาวิชาบูรณาการองค์วามรู้ กว่า 9 ปี ตลอดเส้นทางการวิจัยนั้นได้ตีพิมพ์เผยแพร่ผลงานวิจัยบางส่วนในวารสารวิชาการนานาชาติ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาค้นคว้าแก่ผู้สนใจนำไปใช้พัฒนาต่อๆไป
คุณ นฤมล ทักษอุดม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮิลล์คอฟฟ์ จำกัด กล่าวว่า..
“ มุมมองต่อการดูแลกาแฟจากต้นน้ำของเราเปลี่ยนแปลงไปเมื่อสิ่งที่เรียกว่าของทิ้ง (waste) กลายเป็นทรัพยากร (resource) ที่สำคัญและอาจจะมีมูลค่าคุณค่าที่มากกว่าสินค้าหลัก เราตัดสินใจที่จะนำเอากาแฟ เข้าสู่ตลาดอาหารและสุขภาพ (Health and wellness) แล้วเช่นเดียวกับการตัดสินใจที่จะกระโดดออกจากถ้วยกาแฟ เพื่อสร้างขยายอุตสาหกรรมใหม่ให้กับทรัพยากรกาแฟรองรับความผันผวนของธุรกิจและการแข่งขัน จากการเปิดเสรีทางการค้า ฮิลล์คอฟฟ์ ตั้งใจว่า จะปักหลักซื้อกาแฟไทยจากเกษตรกร ด้วยราคาที่ยุติธรรม และสามารถสนับสนุนเกษตรกร ผู้ปลูกกาแฟไทยในระบบวนเกษตรได้อย่าง ยั่งยืนยาวนาน ”
นอกจากนี้ บริษัท ฮิลล์คอฟฟ์ ได้เข้าสู่การประเมินการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยองค์การบริหารก๊าซเรือนกระจกแห่งประเทศไทย และสามารถนำเอากระบวนการจัดการเนื้อผลกาแฟมาลดค่า Carbon Emission ในผลิตภัณฑ์กาแฟคั่วได้เช่นเดียวกัน นำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์กาแฟคาร์บอนต่ำ สร้างอุตสาหกรรมกาแฟสีเขียว ที่ได้ประโยชน์ทั้งคนดื่มกาแฟ คนรักสุขภาพ การผลิต การบริโภค ที่ช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน
ทั้งหมดนี้คือการเชื่อมโยงบูรณาการนวัตกรรมของฮิลล์คอฟฟ์เข้ากับงานส่งเสริมการเกษตรที่สูงการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์การลดการปลดปล่อยของเสียจากกระบวนการผลิตและใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดไม่เหลือทิ้งตาม แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) โดยนวัตกรรมของฮิลล์คอฟฟ์ครอบคลุมอุตสาหกรรม เป้าหมายทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น เกษตรกรรมและอาหาร พลังงานและเคมีชีวภาพ การแพทย์และสุขภาพ และ การท่องเที่ยว ทั้งนี้เป้าหมายสูงสุดของฮิลล์คอฟฟ์ คือ การเป็นผู้สร้างนวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ สร้างงาน และ ยกระดับการพัฒนาประเทศโดยไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง