โรคหัวใจ อันตรายที่ไม่ควรมองข้าม
โรคหัวใจเกิดจากอะไร ถ้าพูดถึงอัตราการเสียชีวิตของคนไทยอันดับต้นๆก็คงหนีไม่พ้นอาการเจ็บป่วยของโรคหัวใจ เมื่อเป็นโรคหัวใจนั้น ย่อมมีการผิดปกติที่เกิดมาจากหลายปัจจัยด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นพันธุกรรม หรือ แม้แต่พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน โรคที่มาจากความผิดปกติที่หัวใจ ได้แก่ โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ , โรคกล้ามเนื้อหัวใจ หรือการที่หัวใจเต้นผิดจังหวะ เป็นเป็นความผิดปกติที่มาจากการสูบฉีดของเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจได้เช่นกัน อาการต่างๆหากปล่อยไว้เป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวได้
กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เป็นภาวะที่เสี่ยงต่ออัตราการเสียชีวิตสูง ซึ่งเป็นโรคที่คนไทยเสียชีวิตมากที่สุด 2563 สูงเป็นอันดับ 4 ของไทย ซึ่งก็มาจากโรคหลอดเลือดหัวใจตีบนั้นเอง

หลอดเลือดหัวใจตีบเกิดขึ้นได้อย่างไร
ผู้ที่เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดหัวใจตีบ มาจากหลายปัจจัย ปัจจัยหนึ่งมาจากผนังหลอดเลือดเกิดความเสื่อม หรือ อีกกรณีที่พบบ่อยครั้งคือ การเกิดการสะสมของคอเลสเตอรอลในหลอดเลือดหัวใจ รวมถึงสารต่างๆ ที่ไปเกาะตามผลังหลอดเลือดหัวใจ จนทำให้เกิดเป็นคราบไขมันหนาขึ้น เมื่อหลอดเลือดหัวใจถูกบดบังด้วยไขมันที่พอกหนา จึงทำให้หลอดเลือดหัวใจบริเวณดังกล่าวมีทางเดินของกระแสเลือดแคบลง และอาจทำให้หลอดเลือดหัวใจถูกปิดกั้นลงในที่สุด ซึ่งส่งผลให้กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดแบบเฉีบยพลันและหากรักษาไม่ทันก็ทำให้เสียชีวิตในที่สุด
ปัจจัยเสี่ยงโรคหัวใจตีบที่ไม่ควรมองข้าม มีด้วยกันหลายปัจจัย ดังนี้
- ภาวะอ้วน หรือมีน้ำหนักส่วนเกินมาก โรคอ้วนนั้นมักเป็นจุดเริ่มต้นของหลายๆโรคอย่างที่ทุกคนทราบกันดี และแน่นอนว่าคนอ้วนมักมีปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจมากกว่าคนผอมหรือคนที่มีน้ำหนักมาตรฐาน
- ภาวะความเครียด การดำเนินชีวิตที่อยู่ในสภาวะที่ตึงเครียดตลอดเวลา เป็นสิ่งกระตุ้นให้เกิดอาการโรคหัวใจขึ้นได้
- การออกกำลังกายไม่สม่ำเสมอ หรือ ขาดการออกกำลังกายเป็นประจำ คนเราควรออกกำลังกายทุกวันอย่างน้อยวันละ 30 นาที
- ปัจจัยจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น ผู้ที่มีอายุเพิ่มขึ้นอัตราการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติจะมีสูงกว่าคนที่มีอายุน้อย และมีความเสี่ยงในภาวะหัวใจล้มเหลวมากที่สุด
- ผู้ป่วยที่มีโรคความดันโลหิตสูง
- การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ เป็นปัจจัยที่ทำให้คนเราเกิดโรคหัวใจสูงเช่นกัน เนื่องจากในแอลกอฮอล์มีสารที่ไปทำลายการทำงานของตับ ซึ่งตับมีหน้าที่ลำเลียงไขมันไม่ดีออกจากร่างกาย แต่เมื่อตับถูกทำร้าย ไขมันไม่ดีจึงไปเกาะตามผนังหลอดเลือด ตามจุดต่างๆในร่างกาย ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคหัวใจ
อาการโรคหัวใจ ที่ไม่ควรนิ่งนอนใจ
หัวใจของคนมีเส้นเลือดที่สำคัญที่ทำหน้าที่สูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกาย แต่เมื่อตรวจพบความผิดปกติเกิดขึ้นก็ควรรีบแก้ไขก่อนที่กล้ามเนื้อหัวใจจะถูกทำลายและรักษายากยิ่งขึ้น การตรวจหัวใจด้วยตัวเองตามอาการจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
- อาการพื้นฐานที่มักพบบ่อยคืออาการเจ็มหน้าอก หายใจขัด หายใจไม่เต็มปอด หากมีอาการดังกล่าวสันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าคุณกำลังเสี่ยงโรคหัวใจ
- รู้สึกเหนื่อยง่าย เดินหรือทำกิจกรรมได้ไม่นานก็รู้สึกเหนื่อยหอบ มีความเสี่ยงต่อผู้ที่เป็นโรคหัวใจเช่นกัน
- เหงื่อออกเริ่มจากตามมือ ตามเท้า หรือมีอาการอ่อนเพลียไม่มีแรง เสี่ยงต่อหลอดเลือดหัวใจตีบเนื่องจากหลอดเลือดหัวใจถูกเบียดบังด้วยตะกรันหรือคราบไขมันที่ไปเกาะตามผนังหลอดเลือด ส่งผลให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ เกิดอาการอ่อนเพลีย ไม่มีแรง
- บางรายที่มีอาการหนักก็อาจทำให้ผู้ป่วยหมดสติ วูบหรือหัวใจหยุดเต้นระหว่างทำกิจกรรม และถึงขั้นเสียชีวิตได้
อาการต่างๆที่กล่าวมาข้างต้นล้วนเป็นปัจจัยที่มีผลต่อความดันเลือด , การเป็นโรคหัวใจ หรือ กล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติ ผู้ป่วยควรรีบพบแพทย์โดยด่วน

แนวทางการรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจ
- เมื่อแพทย์ตรวจพบความผิดปกติของผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจ โดยทั่วไปจะวินิจฉัยด้วยวิธีสวนหัวใจและทำ CAG หรือการฉีดสีเข้าไปในหลอดเลือดเพื่อดูการไหลเวียนของเลือดและตรวจหาความผิดปกติต่างๆ ซึ่งวิธีนี้จะกินระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
- การตรวจผู้ที่เป็นโรคหัวใจด้วยคลื่นไฟฟ้าหัวใจ หรือใช้ร่วมกับการเดินสายพาน
- การเข้าเครื่อง X-Ray คอมพิวเตอร์
- การอัลตร้าซาวด์ดูกล้ามเนื้อหัวใจ การเต้นของหัวใจ และดูภาพรวมที่อาจพบสิ่งผิดปกติที่เป็นสาเหตุของโรคหัวใจโดยรวม
CRP หรือ C Reactive Protein คืออะไร สำคัญกับโรคหัวใจอย่างไร
CRP คือโปรตีนที่ถูกสร้างขึ้นมาจากตับเพื่อตอบสนองต่อการอักเสบในร่างกาย แต่ CRP ไม่สามารถระบุได้ว่าอาการอักเสบดังกล่าวมาจากสาเหตุใด เกิดเฉียบพลัน หรือเป็นการเกิดแบบเรื้อรัง
การตรวจเพื่อหาค่า CRP ในร่างกาย แพทย์จะใช้วิธีเจาะเลือดประมาณ 5 มล.โดยที่ตัวผู้ป่วยเองไม่จำเป็นต้องเตรียมตัว หรือ งดอาหารใดๆ
การตรวจหาค่า CRP นั้น ค่าปกติของคนทั่วไปจะต้องอยู่ที่น้อยกว่า 1.0 mg/dl หรือ น้อยกว่า 10 mg/L ซึ่งหากผู้ป่วยตรวจพบว่าค่า CRP ในร่างกายสูง อาจก่อห้เกิดปัจจัยเสี่ยงของโรคต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หรือ SLE เป็นต้น
การตรวจ hs-CRP การตรวจลักษณะนี้จะเป็นการตรวจที่ช่วยประเมินความเสี่ยงของภาวะที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ ซึ่งผู้ป่วยในกลุ่มนี้ได้แก่ ผู้ป่วยที่มีระดับไขมันในเลือดสูง , ผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคเบาหวาน และ โรคความดันสูง รวมไปถึงผู้ที่ชอบสูบบุหรี่

แนวทางการป้องกันที่เราทำเองได้
อาการของโรคหัวใจมักแสดงออกมาได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับกิจกรรมของแต่ละบุคคล ซึ่งหลายคนใส่ใจสุขภาพ ก็มักจะแสวงหาวิธีป้องกันไม่ให้ตนเองตกอยู่ในกลุ่มผู้ป่วย หรือผูป่วยบางรายที่เพิ่งเริ่มแสดงอาการก็เลือกที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้ชีวิต หรือ หาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมารับประทานเพื่อป้องกัน หรือ ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ แทนการกินยาหรือไปพบแพทย์
นอกจากนั้นการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยนช์ต่อร่างกาย เลี่ยงการกินอาหารจำพวกทอด ปิ้งย่าง เน้นกินอาหารที่มีกาก ใย เช่น ผัก ผลไม้ ก็เป็นตัวเสริมสร้างให้ร่างกายห่างไกลโรคที่เกิดจากไขมันหรือโรคที่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตเช่นกัน
โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด เป็นสิ่งที่หลายคนไม่อยากพบเจอ เพราะเป็นแล้วไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ดังนั้นการดูแลสุขภาพของตนเองตั้งแต่เนิ่นๆ จะทำให้คุณห่างไกลการเป็นโรคหัวใจ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโรคหัวใจ
โรคหัวใจเกิดจากอะไร?
โรคหัวใจเกิดมาจากหลายปัจจัยด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นพันธุกรรม หรือ แม้แต่พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นโรคที่มาจากความผิดปกติของหัวใจ
CPR คืออะไร?
การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ที่ใช้ฟื้นคืนชีพให้ผู้ที่หยุดหายใจหรือหัวใจหยุดเต้นกลับมามีชีพจรดังเดิม
ปัจจัยของโรคเกิดมาจากอะไร?
ปัจจัยการเกิดโรคมาจาก 3 ส่วน คือ มนุษย์ สิ่งแวดล้อม และเชื้อโรคต่างๆที่ทำให้ร่างกายของมนุษย์และสิ่งมีชีวิตผิดปรกติ
แนวทางการป้องกันโรคหัวใจเบื้องต้นมีอะไรบ้าง?
อันดับแรกเราต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น งดสูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูงและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมตัวไหนที่ช่วยป้องกันโรคหัวใจ
แนะนำผลิตภัณฑ์ Coffogenic ตัวนี้เลยค่ะ ที่ไม่ได้เป็นยาที่รักษาทางการแพทย์โดยตรง แต่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพ ช่วยลดไขมันที่ไปเกาะตามผลังหลอดเลือดหัวใจ ลดการเกิดภาวะโรคหัวใจได้ค่ะ
Coffogenic คืออะไร?
ผลิตภัณฑ์ Coffogenic มีสารออกฤทธิ์ที่สำคัญคือ กรดคลอโรจีนิค ซึ่งสารนี้จะช่วยลดการดูดซึมไขมันเข้าสู่ร่างกาย และทำงานในระบบเมตาบอลิกซึม ช่วยลดไขมันที่ไปเกาะตามผลังหลอดเลือดหัวใจอีกด้วย
ประโยชน์ของ Coffogenic มีอะไรบ้าง?
- ช่วยลดไขมันหลอดเลือด
- ลดการดูดซึมไขมันเข้าสู่ร่างกาย
- ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
- ดักจับไขมัน
- ลดการอักเสบของเซลล์ในร่างกาย