You are currently viewing ทำความรู้จักกับ Instant Coffee กันเถอะ !!

ทำความรู้จักกับ Instant Coffee กันเถอะ !!

กาแฟชนิดผงสำเร็จรูป (instant coffee) เป็นเครื่องดื่มทางเลือกของผู้บริโภคอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน โดยสภาพสังคมการทำงานที่เร่งรีบจึงทำให้กาแฟชนิดผงสำเร็จรูปสามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ง่าย ด้วยวิธีการชงเครื่องดื่มที่ง่าย สะดวก รวดเร็ว เพียงเติมน้ำร้อน ก็สามารถดื่มด่ำรสชาติกาแฟหอมๆ เข้มๆ ได้ัทันที ในทางกลับกันผู้บริโภคจำนวนไม่น้อย เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับกาแฟสำเร็จรูปชนิดผง ? ผลิตอย่างไรและกลิ่นรสถูกสกัดมากเมล็ดกาแฟแท้จริงหรือไม่ บทความนี้เราจะไขข้อสงสัยและทำความรู้จักกับกาแฟชนิดผงสำเร็จรูป (instant coffee) กันนะครับ

กระบวนการผลิตกาแฟผงกึ่งสำเร็จรูปผลิตอย่างไร ?

ผลิตภัณฑ์กาแฟสำเร็จรูปชนิดผง ผลิตและแปรรูปจากเมล็ดกาแฟคั่วบดใหม่ สามารถใช้ได้ทั้งกาแฟอราบิก้า (Arabica) และ โรบัสต้า (Robusta) หรือ เมล็ดกาแฟผสม (Blending) ตามสัดส่วนต่างๆขึ้นอยู่กลิ่นรส และความเข้ม ที่ต้องการในแต่ละสูตรของผลิตภัณฑ์ กาแฟสำเร็จจะมีลักษณะเป็นผงละเอียดหรือเกล็ด สามารถละลายได้ดีในน้ำร้อน กระบวนการเริ่มต้นโดยนำกาแฟคั่วบดผ่านการสกัดด้วยน้ำร้อน น้ำกาแฟเข้มข้นที่ถูกสกัดออกมาจะนำไปผ่านขั้นตอนการทำแห้งด้วยขั้นตอน 2 วิธี ดังนี้ 

การทำแห้งด้วยความร้อนแบบพ่นฝอย (Spray Drier) เป็นการนำน้ำกาแฟเข้มข้นนำไปผ่านเครื่องละอองพ่นฝอย น้ำกาแฟจะถูกเปลี่ยนเป็นละอองขนาดเล็ก ในกระแสลมร้อนที่ไหลในทิศทางเดียวกัน (150-300 องศาเซลเซียส) ในถังทำแห้งขนาดใหญ่กาแฟแห้งที่ได้จะถูกแยกออกไปโดยการใช้ Centrifugal Atomizer ส่วนของเหลวจะถูกส่งไปยังภาชนะหมุน เพื่อสร้างขนาดของหยดสารละลายใหม่ในการสเปร์
 
การทำแห้งแบบระเหิด ,แช่เยือกแข็ง (Freeze Drier)  การทำแห้งแบบแช่เยือกแข็งเป็นการทำแห้งโดยให้ของแข็งกลายเป็นไอทันที หรือ เรียกว่าการระเหิด โดยน้ำกาแฟจะผ่านการแช่เยือกแข็งจากนั้นจึงทำการระเหิดภายใต้ความดันจนกลายเป็นไอ

 

ขั้นตอนและกรรมวิธีการผลิตกาแฟผงสำเร็จรูป มีดังนี้

1. การคัดคุณภาพและเก็บรักษาเมล็ดกาแฟที่ดี (Green Bean Cleaning & Storage) ตรวจสอบและประเมินคุณภาพวัตถุดิบก่อนนำไปสู่กระบวนการแปรรูปและจัดเก็บ เช่น การคัดขนาดด้วยเครื่องคัดแยกขนาด , การคัดสีกาแฟสาร

2. การผสมกาแฟ (Blending Coffee) เป็นขั้นตอนการนำเมล็ดกาแฟมาผสมรวมกัน เช่น โรบัสต้า (Robusta) , อาราบิก้า (Arabica) โดยการเบลนด์กาแฟ จำเป็นต้องทดสอบคุณภาพและประเมินรสชาติของเมล็ดกาแฟนั้นๆ ให้เหมาะสมกับสูตรของผลิตภัณฑ์ 

3. การคั่ว (Roasting) การออกแบบโปรไฟล์การคั่วเมล็ดกาแฟเป็นขั้นตอนที่สำคัญและต้องควบคุมคุณภาพให้สม่ำเสมอ เพราะมีผลต่อคุณภาพรสชาติโดยตรง 

4. การบด (Grinding) โดยใช้เครื่องบดมาตรฐาน เรียกว่า Motorized Grinders

5. การสกัด (Extraction) เพื่อแยกส่วนประกอบสารละลายในน้ำกาแฟ จากเมล็ดที่ผ่านการคั่วและการบดละเอียดแล้ว ต้องอาศัยน้ำเป็นตัวทำละลาย เพื่อให้ได้ของแข็งที่ละลายน้ำสกัดออกมาทั้งหมดในรูปของเหลว จากนั้นนำไปผ่านกระบวนการภายใต้ความดันสูง เพื่อให้อุณหภูมิสูงกว่าจุดเดือดของน้ำ เพิ่มอัตราการสกัดที่ดี

6. การทำให้เข้มข้น (Concentration) เพื่อแยกโมเลกุลของน้ำออกจากสารสกัดที่ได้จากกาแฟให้เข้มข้นขึ้น 

7. การแยกสารที่ให้กลิ่นหอม (Aroma Recovery) เป็นการถนอมกลิ่นกาแฟไม่ให้สูญเสียไปกับกระบวนการผลิตและคงความหอมสดใหม่อยู่เสมอ

8 การปรับค่ามาตรฐาน (Standardization) เป็นการวัดความเข้มข้นของกาแฟให้ได้มาตรฐานการผลิต

9. การทำแห้ง (Dehydration) ขั้นตอนการ Spray Drier และ Freeze Drier

10. การบรรจุ (Filling & Packing) ใช้เครื่องมือเฉพาะในการบรรจุผงกาแฟ และต้องปิดให้มิดชิด หลังจากนั้นก็จะทำการบรรจุลงหีบห่อและขนย้ายไปยังโกดังพักสินค้า เพื่อรอการขนส่งต่อไป

 



เรียบเรียงโดย : Hillkoff Academy