You are currently viewing GCNT Expo 2025 เทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะเพื่อการรับมือกับสภาพภูมิอากาศ

GCNT Expo 2025 เทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะเพื่อการรับมือกับสภาพภูมิอากาศ

ในยุคปัจจุบัน “ความยั่งยืน” ไม่ได้เป็นเพียงแนวคิดอีกต่อไป แต่กลายเป็นภารกิจที่ต้องเร่งดำเนินการอย่างจริงจัง โดยทุกภาคส่วนในสังคมต่างมีบทบาทร่วมกันในการสร้างระบบอาหารและสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัยและมั่นคงสำหรับอนาคต

 

บริษัท ฮิลล์คอฟฟ์ จำกัด ยึดมั่นในการเปลี่ยนบทบาทของภาคธุรกิจให้กลายเป็น “เครื่องมือ” สำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านแนวทาง เกษตรเชิงฟื้นฟู (Regenerative Agriculture) ซึ่งถูกพัฒนาเป็นโมเดล Circular Eco Coffee ที่บูรณาการนวัตกรรม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจชุมชนเข้าไว้ด้วยกันอย่างสมดุล

            • ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ ด้วยกระบวนการผลิตที่ใส่ใจ

            • สร้างมูลค่าเพิ่มจากของเหลือทิ้งในระบบกาแฟ

            • เชื่อมโยงการบริโภคอย่างมีคุณค่ากับการผลิตที่ยั่งยืน

 

แม้ตลาดภายในประเทศจะยังไม่ให้ความสำคัญกับ “กาแฟอินทรีย์” อย่างเต็มที่ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายพื้นที่เพาะปลูกกาแฟอินทรีย์อย่างต่อเนื่อง ด้วยความเชื่อมั่นว่าความยั่งยืนที่แท้จริง ต้องเริ่มจากการลงทุนในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อโลกและต่อชีวิตผู้คนในระยะยาว

ในการเข้าร่วมงาน GCNT Expo 2025 ในครั้งนี้ ฮิลล์คอฟฟ์มีโอกาสแลกเปลี่ยนและสร้างความร่วมมือกับหลากหลายภาคส่วนที่ขับเคลื่อนเป้าหมายเดียวกัน อาทิ หน่วยงานระดับนานาชาติ เช่น GIZ และ FAO ที่มีบทบาทในการพัฒนาชนบทในประเทศไทย รวมถึงภาคธุรกิจชั้นนำ เช่น CPF ที่เริ่มพัฒนาระบบจัดซื้อจากแหล่งผลิตที่ไม่ใช้การเผาในฤดูเก็บเกี่ยว

 

ฮิลล์คอฟฟ์เชื่อมั่นว่าการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงต้องเกิดจาก “การลงมือทำ” และการมีส่วนร่วมในงานครั้งนี้ คืออีกหนึ่งก้าวสำคัญที่เราหวังว่าจะเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดความร่วมมือที่กว้างขวางยิ่งขึ้น นำพาสังคมไทยสู่ระบบอาหารที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง

 

กาแฟอินทรีย์ ไม่ใช่เพียงเรื่องของสุขภาพหรือความปลอดภัยของผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังเป็นกลไกสำคัญในการอนุรักษ์และฟื้นฟูดิน น้ำ และทรัพยากรธรรมชาติ โดยบริษัท ฮิลล์คอฟฟ์ ได้ร่วมมือกับเกษตรกรในพื้นที่สูง เพื่อรับซื้อผลผลิตกาแฟอินทรีย์และจัดจำหน่ายในตลาด แม้ผู้บริโภคยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมมากนัก

 

อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าความพยายามนี้จะสามารถพิสูจน์ให้เห็นถึงคุณค่าที่แท้จริงในไม่ช้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการทำงานร่วมกับ คณาจารย์จากภาควิชาปฐพีวิทยา มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ในการศึกษาศักยภาพการกักเก็บคาร์บอนในระบบเกษตรอินทรีย์ ผ่านกระบวนการ Carbon Flux และ Carbon Sequestration ซึ่งเป็นการศึกษาเปรียบเทียบระหว่างดินทั่วไป ดินอินทรีย์ และดินฟื้นฟูที่ใช้ไบโอชาร์ (Biochar) โดยผลงานวิจัยดังกล่าว ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารระดับนานาชาติ Nature Magazine โดย ดร.จิราภรณ์ อินทร์ทัศน์

 

อีกหนึ่งความก้าวหน้าที่น่าภาคภูมิใจ คือการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการตรวจวัดการกักเก็บคาร์บอนในพืช ผ่านการสร้างภาพสามมิติแบบ point cloud ด้วยโดรนความละเอียดสูง ซึ่งทำให้สามารถประเมินปริมาณคาร์บอนในมวลชีวภาพเหนือพื้นดินได้อย่างแม่นยำ งานวิจัยดังกล่าวอยู่ภายใต้การดำเนินการของ ดร.จักรพงศ์ ไชยวงค์ และ ดร.จอม

 

แม้การดำเนินงานด้านนี้ยังคงต้องเผชิญกับข้อจำกัดและความท้าทาย บริษัท ฮิลล์คอฟฟ์ ยังคงเดินหน้าด้วยความมุ่งมั่นว่าเป้าหมาย “Net Zero” จะสามารถเกิดขึ้นได้จริง ผ่านการยืนยันด้วยข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจน บนแนวทางการเปลี่ยนแปลงระบบเกษตรบนพื้นที่สูงที่เปราะบาง ไปสู่เกษตรอินทรีย์ที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม

 

ขอขอบคุณผู้ร่วมขับเคลื่อนทุกท่าน ที่อยู่เคียงข้างกันบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้